การสร้างภาพยนตร์

Cinema Line Spotlight | URANUS2324 by James Thanadol and A Witch Trial by Sarah-Tabea Sammel

Calvin — Wed, 11 Dec 2024 02:52:12 +0000

Cinema Line Spotlight | ยูเรนัส2324 โดยผู้กำกับ เจมส์ ธนดล และ A Witch Trial โดยผู้กำกับ Sarah-Tabea Sammel

Calvin Wed, 12/11/2024 - 08:22

Article Categories

แนะนำ

Body Category

FX3

Venice 2

BURANO

Sony มุ่งมั่นที่จะเปลี่ยนจินตนาการของผู้กำกับทุกคนให้กลายเป็นจริง ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ชื่อดังหรือหนังสั้นนอกกระแส กล้อง Cinema Line ระดับมืออาชีพของเราตอบโจทย์ทุกความต้องการของเหล่านักสร้างภาพยนตร์ทั่วโลกด้วยเทคโนโลยีการถ่ายภาพยนตร์ซึ่งจะถ่ายทอดเรื่องราวต่าง ๆ ลงสู่จอเงิน ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ประเภทใด กล้อง Cinema Line ก็พร้อมช่วยให้เหล่าผู้สร้างรับมือกับโลกแห่งการถ่ายทำแบบใหม่ ๆ ที่ไม่คุ้นเคยได้ สำหรับไตรมาสนี้ เราจะมาศึกษารายละเอียดกระบวนการสร้างสรรค์เบื้องหลังภาพยนตร์อวกาศฟอร์มยักษ์ระดับมาสเตอร์พีซ ยูเรนัส2324 และภาพยนตร์สั้นนอกกระแสสัญชาติสิงคโปร์อย่าง A Witch Trial แล้วหาคำตอบกันว่ากล้อง Cinema Line มีส่วนช่วยในงานโปรดักชันของภาพยนตร์ทั้งสองนี้อย่างไร

ภาพยนตร์น่าจับตามองเรื่องที่ 1 | ยูเรนัส2324

ยูเรนัส2324 เป็นภาพยนตร์รักโรแมนติกไซไฟแฟนตาซีสัญชาติไทยจากฝีมือการกำกับของเจมส์ ธนดล จากค่ายเวลเคิร์ฟ สตูดิโอ (VelCurve Studio) ซึ่งผสมผสานองค์ประกอบของการสำรวจอวกาศจักรวาลคู่ขนาน ตลอดจนความรักที่ข้ามเวลาและมิติ โดยบอกเล่าเรื่องราวการเดินทางของ “ลิน” นักบินอวกาศหญิง รับบทโดย “ฟรีน” สโรชา
จันทร์กิมฮะ และ “แคท” สาวนักดำน้ำฟรีไดฟ์ รับบทโดย “เบ็กกี้” รีเบคก้า แพทรีเซีย อาร์มสตรอง ยามที่คนทั้งคู่ท้าทายกาลเวลาและห้วงอวกาศเพื่อหาทางกลับมาพบกัน

เราได้พูดคุยกับผู้อำนวยการสร้าง คีตะวัฒน์ ชินโคตร และผู้กำกับภาพ อานนท์ จันทร์ประเสริฐ จากค่ายเวลเคิร์ฟ สตูดิโอ เพื่อเจาะลึกกระบวนการผลิตภาพยนตร์เรื่องยูเรนัส2324 ที่ถ่ายทำด้วยกล้อง VENICE 2 และ BURANO นี้

ภาพยนตร์เรื่องนี้มีความท้าทายอะไรบ้าง

ตอบได้เลยว่า คือ ฉากอวกาศต่าง ๆ เพราะเราคุ้นเคยและเชี่ยวชาญกับฉากใต้น้ำอยู่แล้ว แต่อวกาศเป็นอะไรที่เราไม่เคยรับมือมาก่อน เราต้องคิดหาวิธีการทำงานในแบบของเราเอง ซึ่งไม่ใช่แค่เรื่องบทหนังเท่านั้น หนังเรื่องนี้ต้องใช้ทั้งอุปกรณ์เฉพาะทางและ Visual Effect เพราะเราสื่อสารเนื้อเรื่องส่วนใหญ่โดยใช้ภาพ

อีกหนึ่งเรื่องยากคือ การตามซีนแอ็กชันต่อเนื่องให้ทัน เนื่องจากลักษณะการเดินเรื่องที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ทำให้เราต้องเข้าไปใกล้นักแสดงในระหว่างซีนแอ็กชันต่อเนื่อง เพื่อดึงผู้ชมให้เข้าไปอยู่ในเรื่องราวได้อย่างเต็มที่ โชคดีที่เรามีกล้อง VENICE Extension System 2 ซึ่งช่วยให้เราจับภาพซีนโคลสอัพพวกนี้ได้ง่ายมาก สิ่งที่ต้องทำมีแค่สวมตัวกล้องไว้ที่หลังเหมือนสะพายกระเป๋าเป้โดยมีสายต่อตรงไปที่ตัวเลนส์ ซึ่งทำให้การถ่ายทำสะดวกขึ้นมาก ๆ เพราะเราสามารถตามจับภาพการเคลื่อนไหวได้อย่างใกล้ชิดขณะที่นักแสดงเคลื่อนที่ไปมา

กล้อง Cinema Line มีส่วนช่วยในโปรดักชันของคุณอย่างไรบ้าง

เราคำนึงถึงความเข้มข้นและความสลับซับซ้อนในการถ่ายทำเรื่องยูเรนัส2324 ก่อนที่จะตัดสินใจใช้ VENICE 2 และ BURANO เป็นกล้องในกองถ่าย กล้อง Cinema Line เหมาะมากสำหรับการถ่ายทำหนังที่เน้น Visual Effect หนัก ๆ เพราะเป็นกล้องที่มีช่วงไดนามิกสูงสำหรับซีนที่มีแสงน้อยและรองรับการทำงานร่วมกับกล้องหลายตัวเพื่อการย้อมสีที่ลื่นไหล

เราเลือก VENICE 2 เป็นกล้องหลักสำหรับซีน Visual Effect ใต้น้ำและในอวกาศ เพราะมี X-OCN XT codec ที่มี RAW แบบ 16 บิต ซึ่งเป็นอัตราบิตสูงสุดที่ช่วยให้ขั้นตอน Post-production มีความยืดหยุ่นมากขึ้น สำหรับกล้อง B cam เราเลือกใช้ BURANO เพราะประสิทธิภาพในสภาพแสงน้อยและความคล่องตัวในการใช้งาน ซึ่งช่วยให้เราสามารถเก็บฟุตเทจได้จากหลากหลายมุม ยิ่งไปกว่านั้น X-OCN LT codec ของ BURANO ยังเป็น RAW แบบ 16 บิต ซึ่งทำให้การจับคู่สีกับฟุตเทจที่ถ่ายทำด้วย VENICE 2 เป็นเรื่องง่ายในกระบวนการ Post-production

เนื่องจากเวลเคิร์ฟ สตูดิโอ (VelCurveStudio) เชี่ยวชาญด้าน Post-production ด้วย เราจึงค่อนข้างพิถีพิถันในการเลือกไฟล์กล้อง กล้อง Cinema Line ช่วยให้งานของเราง่ายขึ ้นใน ทุก ๆ ด้าน ท าให้เราสามารถเกลี่ยสีซีนที่ย้อนแสงมาก ๆ ซึ่งถ่ายตรงชายหาดและซีนในร่มได้อย่างไม่มี ที่ติ นอกจากนี ้ เรายังเก็บภาพฟุตเทจได้โดยมีเสียงรบกวนต ่าด้วย

พวกเราดีใจที่ตัดสินใจเลือกใช้กล้อง Cinema Line เพราะมันช่วยให้ทีมงานไม่ต้องพะวงเรื่องพื้นฐานทางเทคนิค และหันไปจดจ่อกับการบอกเล่าเรื่องราวดี ๆ ด้วยภาพได้อย่างเต็มที่

ภาพยนตร์น่าจับตามองเรื่องที่ 2 | A Witch Trial

A Witch Trial เป็นภาพยนตร์สั้นดราม่าสยองขวัญเชิงจิตวิทยา ผลงานการกำกับ เขียนบท และอำนวยการสร้างโดย Sarah-Tabea Sammel ซึ่งเล่าเรื่องราวของ Raaka นักธุรกิจสาวเก่งที่ชอบสงสัยในตัวเองผู้ถูกหุ้นส่วนธุรกิจทรยศขณะติดอยู่ในลิฟต์ขนส่งสินค้าและเกิดอาการตื่นตระหนกขึ้นเรื่อย ๆ ขณะที่เธอนึกสงสัยความสามารถในการเป็นผู้นำของตนเอง

เพราะสังเกตเห็นความคล้ายคลึงกันระหว่างการตีตราบาปผู้หญิงในประวัติศาสตร์ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นแม่มดกับการจ้องจับผิดที่ผู้หญิงสมัยใหม่ต้องเผชิญในโลกธุรกิจ Sarah-Tabea จึงสร้างภาพยนตร์สั้นสะเทือนอารมณ์ที่แสดงให้เห็นว่าผู้หญิงสามารถต่อสู้ผู้กดขี่ของตนได้อย่างไรเพื่อเอาสิ่งที่ถูกพรากไปกลับคืนมา เราได้พูดคุยกับ Sarah-Tabea เพื่อเจาะลึกเกี่ยวกับการวางไอเดียเริ่มต้นและโปรดักชันของภาพยนตร์เรื่องนี้

อะไรเป็นแรงบันดาลใจให้คุณถ่ายทำ กำกับ และอำนวยการสร้าง A Witch Trial

ตอนที่ค้นคว้าหาข้อมูล ฉันพบว่าผู้หญิงจำนวนมากรวมถึงตัวฉันด้วยรู้สึกกดดันที่จะต้องหานิยามให้ตัวเองล่วงหน้า เพื่อปกป้องตัวเองจากคำตัดสินของผู้อื่นที่จะยิ่งทำให้ความไม่เท่าเทียมและความแบ่งแยกระหว่างเพศเพิ่มขึ้น การเซ็นเซอร์ตัวเองแบบนี้และการถูกบ่อนทำลายความมั่นใจทำให้ผู้หญิงมากมายจมดิ่งลงในสถานการณ์ที่ยิ่งทวีความเลวร้าย รู้สึกกังขาคุณค่าในตัวเอง จำกัดการเติบโต และกีดขวางความสามารถในการฝึกใจดีกับตัวเอง การที่ฉันตั้งคำถามเรื่องการสร้างภาพลักษณ์ตนเองของผู้หญิงและอคติต่าง ๆ ที่ฝังรากลึกอยู่คือสิ่งที่เติมไฟให้ความหลงใหลในโปรเจกต์นี้ของฉัน ฉันใช้ลิฟต์ขนส่งสินค้ามาเปรียบเทียบเพื่อให้เห็นภาพชัดเจนว่าผู้หญิงจำกัดตัวเองทางร่างกายและจิตใจอย่างไร โดยให้ตัวละครเอกติดอยู่ในกล่องลิฟต์

ภาพยนตร์เรื่องนี้มีความท้าทายอะไรบ้าง

เราเผชิญกับข้อจำกัดเรื่องพื้นที่ เวลา และงบประมาณ ไม่ต่างจากหนังสั้นนอกกระแสเรื่องอื่น ๆ สิ่งที่ฉันวางแผนไว้คือ เราจะถ่ายทำกันในลิฟต์ขนส่งสินค้าจริงเพื่อถ่ายทอดความรู้สึกสมจริงตอนที่ตัวละครเอกมีอาการแพนิครุนแรง ซึ่งเป็นซีนที่มีความซับซ้อนและใช้เวลาถ่ายทำนานมาก สภาพแสงที่น้อยสุด ๆ และข้อจำกัดในการเคลื่อนไหวร่างกายเวลาทำงานในพื้นที่ลิฟต์แคบ ๆ ที่มีแสงสะท้อนถือเป็นเรื่องท้าทายมาก แต่แทนที่จะหมดกำลังใจ เราก็พยายามหาทางแก้ปัญหานี้ให้ได้ เรารู้ว่าเราต้องการอุปกรณ์ที่เหมาะสมเพื่อทำงานให้สำเร็จและหาไอเดียสำหรับภาษาภาพและเสียงที่จะนำข้อจำกัดที่เรามีอยู่มาใช้เป็นหลักในการเลือกใช้เทคนิคต่าง ๆ ในการถ่ายทำ

กล้อง Cinema Line มีส่วนช่วยในโปรดักชันของคุณอย่างไรบ้าง

เราถ่ายทำ A Witch Trial ด้วยชุดกล้องคู่ โดยมี BURANO เป็นกล้องหลักและ FX3 เป็นกล้องรอง กล้องชุดนี้ไม่ได้แค่สร้างประสบการณ์ภาพยนตร์ที่มีภาพสวย ๆ เท่านั้น แต่ยังเอื้อให้เราใช้ภาพในการแสดงถึงความเป็นจริงในช่วงเวลาสำคัญได้แบบไม่เหมือนใครด้วย เช่น อาการแพนิคของ Raaka เราถ่ายซีนอาการแพนิคนี้ด้วยเทคนิค Lens whacking (โดยแยกตัวกล้องออกจากเลนส์) ตามคำแนะนำของผู้กำกับภาพเพื่อเล่าเรื่องด้วยภาพแบบนามธรรม วิธีนี้ทำให้การแสดงออกมาดูสมจริงมากขึ้น แต่ละช็อตดูแตกต่างกันชัดเจนและเป็นธรรมชาติ

ก ากับภาพของเรารู้ สึกว่า BURANO ช่วยในการควบคุมภาพได้อย่างดีเยี่ยม โดยท าให เขาสามารถสร้ างความลึกของโทนสีได้ผ่านทางวิธีที่กล้องจับภาพแสงโดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์ ปรับแสงมากนัก ซึ่งเป็นสิ่งส าคัญมากในพื ้นที่ถ่ายท าที่จ ากัดส าหรับหนังเรื่องนี ้ ส่วน FX3 ช่วยให้เขาถือกล้องถ่ายท าได้ อย่างยืดหยุ่นร่วมกับเทคนิค Lens whacking พร้ อมทั้ง รักษาสีสันและโทนสีเดิมไว้ได้ เนื่องจากผู้เชี่ยวชาญด้านการปรับแต่งสีของเราอยู่ในอังกฤษ ทีมของเราจึงไม่สามารถมายืนรวมตัวกันรอบจอมอนิเตอร์เพื่อให้ฟี ดแบ็กได้ แต่ Cinema Line มีประสิทธิภาพด้านการแสดงภาพที่มีคุณภาพสูงและสม ่าเสมอมากจนเรารู้ว่าเรา ก าลังเกลี่ยสีและดูหนังสั้นเรื่องเดียวกันอยู่

โดยรวมแล้ว Cinema Line เป็นระบบกล้องที่มีความยืดหยุ่นสูงมาก ในฐานะของผู้สร้างหนังนอกกระแส ฉันกับทีมงานคอยเสาะหาอุปกรณ์ที่เหมาะกับกระบวนการทำงานที่มีข้อจำกัดสูงของเราอยู่เสมอ สิ่งที่ทำให้ฉันประทับใจที่สุดคือ การที่ทีมงาน Sony ใส่ใจกับความต้องการของนักสร้างหนังนอกกระแสอย่างจริงจัง พวกเขาตอบสนองฟีดแบ็กของผู้ใช้งานในวงการนี้อย่างสม่ำเสมอ พยายามทำความเข้าใจวิธีที่พวกเขาสามารถสนับสนุนการทำงานของเราได้อย่างกระตือรือร้น การมีส่วนร่วมในระดับนี้มีประโยชน์มหาศาลตลอดกระบวนการสร้างหนังของเรา

Cinema Line Spotlight ประจำไตรมาสนี้จบลงแต่เพียงเท่านี้ โปรดติดตามครั้งต่อไป!

ผลิตภัณฑ์แ

ฑ์แนะนำ

FX3

Cinema Line Full-Frame Camera with ultra compact and lightweight

Venice 2

Full-frame digital cinema camera with internal X-OCN recording and choice of 8K and 6K sensors

BURANO

Versatile, lightweight, and compact full-frame 8K cinema camera

Article Theme

การสร้างภาพยนตร์

Walking in a dream with @jeehoowism | Featuring FE 70-200mm F2.8 GM OSS II

Calvin — Mon, 18 Dec 2023 06:18:41 +0000

ย่างก้าวในความฝันกับ @jeehoowism | ด้วย FE 70-200mm F2.8 GM OSS II

Calvin Mon, 12/18/2023 - 11:48

Article Categories

เคล็ดลับมืออาชีพ

Body Category

Alpha 7 IV

Lens Category

FE 70-200mm F2.8 GM OSS II

Kim Ji-hoo หรือ @jeehoowism ใน Instagram เป็นคอนเทนต์ครีเอเตอร์ชาวเกาหลีใต้ที่ชอบถ่ายภาพแนวชวนฝันและวิดีโอในธีมแฟนตาซี โปรเจกต์ล่าสุดของ Ji-hoo อย่าง “Sleepwalking in a Dream” นำเสนอซีรี่ส์คลิป Reels ของสาวน้อยที่เดินเตร่ไปทั่วเกาะเจจูในชุดนอนพร้อมทั้งหอบหมอนและตุ๊กตาสัตว์ไปด้วย ให้ความรู้สึกเหมือนฝันอยู่ท่ามกลางที่โล่งกว้าง

เกาะเจจูเป็นสถานที่พิเศษในใจของ Ji-hoo เพราะเป็นที่แรกที่เขาเดินทางไปเที่ยวคนเดียว สัตว์ป่าและทิวทัศน์บนเกาะที่ราวกับฝันทิ้งร่องรอยความประทับใจไว้ให้เขาอย่างลึกซึ้ง จนกลายเป็นแนวคิดหลักของภาพถ่ายชุดนี้ เราได้คุยกับ Ji-hoo เพิ่มเติมเกี่ยวกับแรงบันดาลใจของเขาและความสามารถของ FE 70-200mm F2.8 GM OSS II ที่ช่วยถ่ายทอดความคิดสร้างสรรค์ของเขา

Status

Pending Approval

About the lens FE 70-200mm F2.8 GM OSS II

3 Reel Questions

Words of encouragement

ทำความรู้จักกับเลนส์ | FE 70-200mm F2.8 GM OSS II

เลนส์ซูมเทเลโฟโต้น้ำหนักเบารุ่น FE 70-200mm F2.8 GM OSS II ถ่ายฟุตเทจด้วยความละเอียดที่น่าทึ่งตลอดทุกช่วงการซูม นอกจากนี้ยังมีความสามารถโฟกัสอัตโนมัติที่รวดเร็วและแม่นยำช่วยให้ Ji-hoo ถ่ายภาพติดตามนางแบบผ่านฉากที่เต็มไปด้วยสิ่งกีดขวางต่าง ๆ เช่น ป่าไม้ ได้โดยอาศัยโฟกัสแบบปรับมือช่วยเล็กน้อย

ความยาวโฟกัส: 70-200 มม.
ระยะโฟกัสใกล้สุด: 0.4-0.82 ม.
อัตราส่วนกำลังขยายสูงสุด (X): 0.3
น้ำหนัก: 1045 ก. (ไม่รวมขั้วล็อกขาตั้งกล้อง)

Status

Pending Approval

แม้ว่าจะเป็นเลนส์เทเลโฟโต้ เลนส์น้ำหนักเบาตัวนี้ก็ทำให้ผมสามารถถ่ายองค์ประกอบของภาพจากมุมต่าง ๆ ได้อย่างลื่นไหล”

Jeehoowism กับการใช้งานเลนส์ FE 70-200mm F2.8 GM OSS II

จากลักษณะของแนวคิดสร้างสรรค์ของ Ji-hoo ทำให้เขาต้องถ่ายวิดีโอแบบ handheld ตลอดทั้งการถ่ายทำ แต่แนวคิดดังกล่าวก็ไม่ได้ทำให้ Ji-hoo ย่อท้อ เพราะตัวเลนส์ที่กะทัดรัดและเบาของ FE 70-200mm F2.8 GM OSS II ทำให้เขาสามารถเคลื่อนตัวระหว่างถ่ายทำจากมุมต่าง ๆ ได้อย่างยืดหยุ่น ฟีเจอร์การป้องกันภาพสั่นไหวในตัวยังช่วยขจัดแรงสะเทือนในทุกย่างก้าวตลอดเส้นทางระหว่างที่เขาถ่ายวิดีโออีกด้วย

Alpha 7 IV | FE 70-200mm F2.8 GM OSS II

คำถาม 3 ข้อเกี่ยวกับ Reels

นอกจากพกพาสะดวกแล้ว FE 70-200mm F2.8 GM OSS II ยังมีอะไรอีกไหมที่คุณชอบมากที่สุด

ผมชอบคุณสมบัติที่พัฒนาให้ดีขึ้นจนทิ้งห่างจากรุ่นแรกอย่าง FE 70-200mm F2.8 GM OSS ไปไกลมาก อย่างเช่น ความล้ำหน้าของประสิทธิภาพการโฟกัสอัตโนมัติ มันทำให้ผมถ่ายภาพจากมุมต่ำได้สะดวกโดยไม่มีปัญหาเรื่องการโฟกัสเป็นเวลานาน

ช่วงเวลาใดที่ทำให้คุณประทับใจที่สุดในการถ่ายทำคลิป Reels ชุดนี้

ตอนที่ถ่ายในทุ่งเลี้ยงม้าครับ มีตัวหนึ่งให้ความสนใจกับหมอนที่นางแบบของผมถืออยู่ โชคดีที่เธอไม่กลัวม้าและเข้าหาม้าอย่างเป็นมิตร ช่วงเวลาที่เกิดขึ้นเองนี้ทำให้ผมได้ฉากการสื่อสารระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติที่อ่อนโยน และผมดีใจที่ได้ถ่ายฉากที่เกิดขึ้นจริงโดยไม่ได้จัดฉาก

Status

Pending Approval

สิ่งที่ผู้เริ่มต้นถ่ายคลิป Reel เป็นครั้งแรกพึงสังเกตคืออะไร

ปัจจัยข้อแรกน่าจะเป็นการเปลี่ยนจินตนาการโลกของคุณให้เป็นแนวตั้ง Reels อาจท้าทายสำหรับใครที่คุ้นเคยกับการถ่ายวิดีโอในแบบแนวนอน ซึ่งขนาดและองค์ประกอบของภาพจะไม่เหมือนกัน คำแนะนำของผมคือ ให้ถ่ายในแนวตั้งต่อไปเพื่อที่คุณจะได้ชินกับการจัดเฟรม ข้อต่อไปคงเป็นการซิงค์คลิปวิดีโอของคุณให้เข้ากับจังหวะของเพลงที่คุณเลือกในขั้นตอนการตัดต่อ นั่นจะทำให้คลิป Reel ของคุณน่าดูยิ่งขึ้น

Status

Pending Approval

ข้อคิดเพื่อเป็นกำลังใจ

คลิป Reels กำลังครองอินเทอร์เน็ต Ji-hoo จึงวางแผนว่าจะคิดไอเดียใหม่ ๆ และร่วมงานกับครีเอเตอร์คนอื่นเพื่อขยายขอบเขตความสร้างสรรค์ของเขา ในขณะเดียวกัน เขาก็ให้กำลังใจกับครีเอเตอร์ Reel ไฟแรงทั้งหลายให้หมั่นฝึกฝนทักษะการเล่าเรื่องของตนต่อไป “สิ่งสำคัญคือต้องดึงความสนใจของผู้ชมไว้ให้ได้ในทันทีที่เห็นและสื่อสารเรื่องราวที่คุณอยากบอกเล่าออกมาภายในกรอบเวลาอันสั้น สร้างเรื่องเล่าที่น่าสนใจด้วยภาพที่สมจริง”

ผลิตภัณฑ์แ

ฑ์แนะนำ

Alpha 7 IV

Full Frame Hybrid Camera

FE 70-200mm F2.8 GM OSS II

G Master Telephoto Zoom Lens for Full Frame

Article Theme

การสร้างภาพยนตร์

BURANO's Revolutionary Features through the Lens of O Sing Pui

Calvin — Tue, 28 Nov 2023 07:58:47 +0000

สำรวจฟีเจอร์ใหม่ของ BURANO ผ่านเลนส์ของ O Sing Pui

Calvin Tue, 11/28/2023 - 13:28

Article Categories

บทวิจารณ์

O Sing Pui คือผู้กำกับภาพมือฉมังซึ่งเป็นที่รู้จักจากผลงานภาพยนตร์ฮ่องกงชื่อดังที่กวาดรายได้มาแล้วมากมายอย่าง “ยิปมัน" ความเชี่ยวชาญในการถ่ายทำภาพยนตร์เชิงศิลปะและเชิงเทคนิคของเขาได้รับการยกย่องอย่างกว้างขวางในวงการภาพยนตร์

เปิดเผยการเดินทางบนเส้นทางสายภาพยนตร์

พบกับสมรรถนะอันโดดเด่นในสภาพแสงน้อยของ BURANO และความสามารถรอบด้านของเลนส์ในวิดีโอสั้น "Rainbow" ที่ถ่ายทอดเรื่องราวสุดประทับใจของคอนเทนต์ครีเอเตอร์

การเก็บภาพความสดใสเปี่ยมชีวิตชีวา

O Sing Pui เชื่อว่าฟีเจอร์ที่ล้ำสมัยของ BURANO มีส่วนช่วยให้วิสัยทัศน์ทางศิลปะของเขากลายเป็นจริง รูปแบบไฟล์ X-OCN (Extended Tonal Range Original Camera Negative) 16 บิตภายในกล้องซึ่งสามารถบันทึกภาพทั้งหมดที่ตรวจจับได้โดยเซ็นเซอร์ 8.6K ของกล้อง จะให้ไฟล์ Scene Linear แบบ 16 บิต ที่มีละติจูดกว้างและการไล่เฉดสีแบบละเอียด "เมื่อได้เห็นสีสันสดใสเปี่ยมชีวิตชีวาจากไฟล์ 16 บิต มันทำให้ผมมีความสุขจริงๆ ครับ" เขากล่าว

ช่วงไดนามิกที่เหนือจินตนาการ

O Sing Pui ใช้ประโยชน์จากช่วงไดนามิกที่ยอดเยี่ยมของ BURANO เพื่อทลายขอบเขตของความสร้างสรรค์ "กล้องสามารถเก็บแสงและเงาไว้ได้อย่างครบถ้วน คงรายละเอียดของพื้นผิวเอาไว้ ซึ่งทำให้งานของผมในขั้นตอนการเกลี่ยสีดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด"

ด้วยความยืดหยุ่นในการรับแสง (ละติจูด) ที่น่าประทับใจถึง 16 สต็อป กล้องถ่ายภาพยนตร์จิทัลตัวนี้จึงสามารถถ่ายฉากโดยมีค่าการแสดงผลสีที่ถูกต้องสูงมาก

ประสิทธิภาพอันน่าทึ่งในสภาพแสงน้อย

BURANO สามารถรองรับ Dual Base ISO ได้ ผนวกกับการตั้งค่าความไวแสงที่ได้รับการยกย่องของกล้องถ่ายภาพยนตร์ดิจิทัล VENICE 2 อีกทั้งยังมี ISO 800 สำหรับใช้ในสภาพแสงมากพอ และ ISO 3200 สำหรับสภาพแสงน้อยอีกด้วย

ในการถ่ายทำ "Rainbow” นั้น O Sing Pui เลือกที่จะท้าทายสมรรถนะในสภาพแสงน้อยของกล้อง ซึ่งก็ได้ผลลัพธ์อันน่าทึ่งเป็นฟุตเทจที่ไม่มีนอยส์เลยโดยสิ้นเชิงจนไม่จำเป็นต้องทำการลดนอยส์ในขั้นตอนการตัดต่ออีก

โฟกัสที่รวดเร็ว แม่นยำ และใช้ง่าย

"โฟกัสอัตโนมัติทำงานได้ดีอย่างไร้ที่ติ หน่วยประมวลผล AI ขั้นสูงภายในระบบของ BURANO ทำให้ไม่จำเป็นต้องใช้โฟกัสแบบแมนนวลเลยครับ" Fast Hybrid AF ของ BURANO ทำให้ O Sing Pui สามารถถ่ายภาพในแบบต่างๆ ได้อย่างลื่นไหลไม่ติดขัด โดยมี AF ตรวจจับระยะห่างที่ติดตามตัวแบบได้อย่างฉับไวและแม่นยำ พร้อมด้วย AF ตรวจจับคอนทราสต์เพื่อให้ได้โฟกัสที่เที่ยงตรงเป็นพิเศษ ฟีเจอร์การตรวจจับใบหน้าจะรับรู้และจับภาพใบหน้ามนุษย์ได้อย่างชาญฉลาด โดยมีหน่วยประมวลผล AI ทำการตรวจจับตำแหน่งของดวงตา ลำตัว และศีรษะได้อย่างเที่ยงตรง

การควบคุมการรับแสงในแบบสร้างสรรค์

ฟิลเตอร์ ND แบบปรับได้ด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ใน BURANO มีส่วนสำคัญที่ทำให้ได้ค่าการรับแสงที่ต้องการและเอฟเฟกต์ที่สร้างสรรค์ ฟิลเตอร์ที่ถูกออกแบบใหม่ให้มีขนาดเล็กลงและสามารถใช้ได้กับระบบป้องกันภาพสั่นไหวในตัวของกล้องทำให้สามารถปรับความเข้มได้อย่างนุ่มนวลต่อเนื่องตั้งแต่ 0.6 (1/4) ถึง 2.1 (1/128) "ฟิลเตอร์ ND แบบปรับได้ทำให้ได้ลุคและอารมณ์ของภาพอย่างที่ผมต้องการสำหรับวิดีโอนี้เลยครับ" O Sing Pui บอก

ความยืดหยุ่นอย่างไร้ที่เปรียบ

BURANO มาพร้อมเมาท์เลนส์ PL มาตรฐานอุตสาหกรรมที่มีความยืดหยุ่นในการใช้งาน สามารถสลับใช้กับเลนส์ E-mount ของ Sony ได้โดยการถอดอะแดปเตอร์ออก O Sing Pui กล่าวเสริมว่า ฉากส่วนใหญ่จะถ่ายโดยใช้เลนส์ E-mount ด้วยเหตุผลด้านความสะดวกในระหว่างที่ตะลุยถ่ายทำซึ่งต้องการความคล่องแคล่วว่องไวเป็นพิเศษ ทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพแม้จะเป็นกองถ่ายขนาดเล็ก

อย่างไรก็ตาม สำหรับฉากพิเศษนี้ O Sing Pui จะใช้เลนส์ PL เพื่อให้ได้ภาพแนวย้อนยุคที่ดูชวนฝัน

ถ่ายภาพได้นิ่งในทุกสถานการณ์

BURANO นำเสนอนวัตกรรมสุดล้ำสำหรับการถ่ายทำภาพยนตร์ โดยเปิดตัวฟีเจอร์การป้องกันภาพสั่นไหวในตัวแบบออปติคอล (IBIS) ที่ใช้ได้กับเลนส์เกือบทุกประเภท รวมถึงเลนส์ PL ด้วย ระบบนี้จะรับประกันความเสถียรและทำให้ได้ภาพที่นิ่ง ไม่สั่นไหวแม้ในสถานการณ์ที่ท้าทาย "ฟีเจอร์นี้ทำให้ถ่าย handheld ได้สะดวกมากครับ เพราะจะมีการชดเชยการสั่นให้ด้วย"

ปฏิวัติวงการถ่ายภาพยนตร์

สรุปได้ว่าการพัฒนาสมรรถนะของ BURANO ได้ปฏิวัติศิลปะในการถ่ายทำภาพยนตร์ไปอย่างสิ้นเชิง มอบพลังให้กับเหล่าผู้สร้างภาพยนตร์อย่าง O Sing Pui ได้พบขีดความสามารถในการสร้างสรรค์และผลิตผลงานที่พิเศษเหนือธรรมดา

ดาวน์โหลดและรับชม “Rainbow” ได้ที่นี่: https://bit.ly/3QFW9HD

โปรดทราบว่าวิดีโอชุดนี้เป็นไฟล์ 10 บิต ระดับคุณภาพ H.265 4K (489MB)

ผลิตภัณฑ์แ

ฑ์แนะนำ

Article Theme

การสร้างภาพยนตร์

Eight Must-have Accessories For Every Content Creator

Calvin — Tue, 26 Sep 2023 02:31:09 +0000

อุปกรณ์เสริม 8 อย่างที่คอนเทนต์ครีเอเตอร์ทุกคนจำเป็นต้องมี

Calvin Tue, 09/26/2023 - 08:01

Article Categories

เคล็ดลับมืออาชีพ

ในฐานะคอนเทนต์ครีเอเตอร์ คุณจำเป็นต้องเตรียมความพร้อมให้ตัวเองด้วยคลังอุปกรณ์เสริมสำหรับถ่ายภาพที่ไว้วางใจได้เพื่อเป็นตัวช่วยสำหรับการถ่ายภาพและวิดีโอ ไม่ว่าคุณจะถ่ายภาพเป็นงานอดิเรกหรือเป็นมืออาชีพ ระบบนิเวศอุปกรณ์เสริมของ Sony ที่เชื่อมต่อกันได้อย่างกลมกลืนและง่ายดายนี้จะช่วยให้กระบวนการถ่ายภาพของคุณเป็นไปอย่างราบรื่น มาดูกันว่าอุปกรณ์เสริม 8 อย่างที่จำเป็นต้องมีในสตูดิโอถ่ายภาพของคุณมีอะไรบ้าง!

1. ไมโครโฟน

ควบคุมเสียงที่บันทึกไว้ได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยไมโครโฟนไร้สาย ไร้แบตเตอรี่ ไมค์มีขนาดกะทัดรัดและน้ำหนักเบา สามารถต่อเข้ากับกล้อง Alpha อย่างง่ายดายเพื่อรับไฟจ่ายจากกล้องโดยตรงผ่าน MI Shoe โดยไม่ต้องใช้สาย ด้วยทิศทางการรับเสียงรูปแบบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Super-directional (เน้นทิศทางด้านหน้า), Omni Directional (รอบทิศทาง) และ Unidirectional (ทิศทางเดียว) จึงควรเลือกไมโครโฟนที่เหมาะกับการใช้งานเพื่อการบันทึกเสียงที่คมชัดอยู่เสมอ

อุปกรณ์ที่แนะนำ:
ECM-M1
ECM-B10
ECM-B1M
ECM-G1
ECM-S1
ECM-W3

2. กริ๊ปถ่ายภาพ

หากต้องถ่ายภาพหรือวิดีโอเวลาเคลื่อนไหวบ่อย ๆ ลองใช้กริ๊ปถ่ายภาพเพื่อความสะดวกในการควบคุมกล้องขณะถ่าย Vlog ซึ่งกริ๊ปถ่ายภาพนี้ยังทำหน้าที่เป็นขาตั้งกล้องขนาดเล็ก เพื่อให้คุณวางกล้องบนโต๊ะแล้วถ่าย Vlog ตัวเองได้อย่างสะดวกสบายอีกด้วย

อุปกรณ์ที่แนะนำ:
GP-VPT2BT

3. แฟลชภายนอก

ให้ภาพออกมาสวยดูดีด้วยแฟลชภายนอก! ไม่เพียงเพิ่มความสว่างให้กับฉากในสภาพแสงที่ไม่แน่นอนเท่านั้น แต่ยังช่วยปรับโทนสีของแสงไฟโดยรอบและลบเงาออกจากภาพ จึงทำให้ภาพถ่ายของคุณออกมาคมชัดอยู่เสมอทั้งตัวแบบและบริเวณโดยรอบ ยิ่งไปกว่านั้น แฟลชของ Sony ยังออกแบบให้ควบคุมด้วยสัญญาณวิทยุไร้สายเพื่อความสะดวกในการถ่ายภาพระยะไกลอีกด้วย

อุปกรณ์ที่แนะนำ:
HVL-F60RM2
HVL-F46RM
HVL-F28RM

4. กริ๊ปแนวตั้ง

หากคุณเป็นช่างภาพมืออาชีพที่ต้องถ่ายแบบ handheld เป็นเวลานาน ๆ ลองใช้กริ๊ปแนวตั้งที่ทั้งอเนกประสงค์และสะดวกสบายเวลาถ่ายภาพ! กริ๊ปแนวตั้งนี้ออกแบบมาเพื่อให้คุณจับถือกล้อง Alpha ได้อย่างกระชับเหมาะมือ ช่วยให้คุณมีสมาธิกับการจัดเฟรมและองค์ประกอบภาพ ไม่ว่าจะถือกล้องในแนวนอนหรือแนวตั้ง

อุปกรณ์ที่แนะนำ:
VG-C4EM
VG-C3EM

5. การ์ดหน่วยความจำ

เก็บทุกความทรงจำอันมีค่าของคุณอย่างปลอดภัยในการ์ดหน่วยความจำความเร็วสูง CFexpress Type A และ UHS-II ซึ่งออกแบบมาเพื่อเพิ่มความเร็วในการอ่านและเขียน ช่วยให้การถ่ายโอนข้อมูลจากกล้องไปยังคอมพิวเตอร์เป็นไปอย่างราบรื่น

อุปกรณ์ที่แนะนำ:
CEA-G320T
SF-G128T
SF-M64T
SF-M64

6. Remote commanders

ขยายการควบคุมกล้อง Alpha โดยการถ่ายภาพจากระยะไกลด้วย Remote Commander ให้คุณควบคุมกล้องจากระยะไกลได้อย่างครอบคลุมด้วยการเชื่อมต่อบลูทูธ มีปุ่มสำหรับการควบคุมที่แม่นยำและส่งข้อมูลภาพอย่างชัดเจนเพื่อแสดงสถานะการบันทึกและการโฟกัสอัตโนมัติ นี่จึงเป็นอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับการถ่ายภาพระยะไกลที่ใช้งานง่าย

อุปกรณ์ที่แนะนำ:
RMT-P1BT
RMT-DSLR2

7. แบตเตอรี่แบบชาร์จได้

หมดกังวลเรื่องแบตหมดระหว่างถ่ายภาพหรือบันทึกวิดีโอด้วยชุดแบตเตอรี่แบบชาร์จได้ของ Sony ซึ่งช่วยให้ใช้งานกล้อง Alpha ต่อเนื่องได้เป็นเวลาหลายชั่วโมง เพิ่มแบตเตอรี่สำรองอีกชุดไว้ในกระเป๋าใส่อุปกรณ์ของคุณก่อนออกไปถ่ายภาพนอกสถานที่เป็นเวลานาน ๆ

อุปกรณ์ที่แนะนำ:
NP-FZ100
NP-FW50

8. กระเป๋ากล้อง

สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด คุณจะต้องรวบรวมอุปกรณ์ทั้งหลายไว้ในกระเป๋าอุปกรณ์แสนสะดวกที่สามารถนำติดตัวไปได้ทุกที่ กระเป๋ากล้อง Sony ที่ทั้งแข็งแรงและทนทานจะช่วยเก็บรักษากล้อง Alpha, เลนส์ ตลอดจนระบบนิเวศอุปกรณ์เสริมของ Sony ของคุณให้ปลอดภัยขณะเดินทาง

อุปกรณ์ที่แนะนำ:
LCS-BBK
LCS-U21

ตอนนี้คุณก็มีอุปกรณ์พร้อมสรรพสำหรับตอบโจทย์ทุกความคิดสร้างสรรค์ ออกไปค้นหาแล้วเก็บบันทึกทุกสิ่งทุกอย่างสุดแท้แต่จินตนาการจะพาคุณไป!

ระบบนิเวศอุปกรณ์เสริมของ Sony - เป็นครีเอเตอร์ในแบบที่คุณต้องการ

Article Theme

การสร้างภาพยนตร์

Bring Stories to Life with Cinema Line

Calvin — Mon, 28 Aug 2023 07:44:34 +0000

เติมชีวิตให้เรื่องราวด้วย Cinema Line

Calvin Mon, 08/28/2023 - 13:14

Article Categories

เคล็ดลับมืออาชีพ

Body Category

Lens Category

FE 70-200mm F2.8 GM OSS

FE 35mm F1.4 GM

FE 50mm F1.2 GM

FE 600mm F4 GM OSS

มนุษย์กับสัตว์นั้นอยู่ร่วมกันอย่างสงบมาโดยตลอด สำหรับบางคน สัตว์ที่เลี้ยงไว้อาจเป็นเหมือนส่วนหนึ่งที่ไม่อาจแยกจากกันได้ของชีวิต ในผลงานสารคดีสั้นชิ้นล่าสุด คุณไก่ ณฐพล บุญประกอบ ได้บอกเล่าเรื่องราวที่ไม่ธรรมดาของ ชามา เด็กน้อยวัยแปดขวบที่เป็นอัจฉริยะด้านการขี่ม้าและความรักสัตว์ สารคดีสั้นที่ถ่ายทำด้วยกล้อง Cinema Line FX6 และ FX3 นี่สามารถบันทึกภาพความรักที่เด็กหญิงตัวน้อยมีให้กับสัตว์เลี้ยงและความหลงใหลในการขี่ม้าของเธอได้อย่างชัดเจนสดใส

การเตรียมอุปกรณ์สำหรับการถ่ายทำ

เมื่อการถ่ายทำ ชามา เริ่มต้นขึ้นในเขตนอกตัวเมืองกาญจนบุรีอันเงียบสงบ คุณไก่ต้องเลือกอุปกรณ์ที่จะช่วยให้สามารถทำงานได้อย่างคล่องตัวและมีประสิทธิภาพ ท้ายที่สุดจึงมาลงตัวที่ทีมงานขนาดเล็กและชุดอุปกรณ์ที่กะทัดรัดเพื่อการถ่ายทำให้เสร็จในกรอบเวลาอันสั้น

ุดที่ยากของการถ่ายทำโดยมีเด็กและสัตว์เป็นตัวดำเนินเรื่องหลักคือ ความจำเป็นที่จะต้องเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับเหตุการณ์ที่ไม่อาจคาดเดาได้ ซึ่งช่วยให้ฉากที่ได้นั้นดูมีความสมจริงมากยิ่งขึ้น แง่มุมโปรดของ Cinema Line FX6 และ FX3 สำหรับคุณไก่คือ ระบบโฟกัสอัตโนมัติแบบไฮบริดที่รวดเร็วและแม่นยำ ซึ่งช่วยให้สามารถบันทึกฉากที่มีความเป็นธรรมชาติได้ด้วยโฟกัสที่แม่นยำทำให้สามารถใช้สมาธิกับการจัดองค์ประกอบของการถ่ายได้อย่างเต็มที่ ไม่ต้องคอยกังวลเรื่องโฟกัสเพื่อให้ได้เรื่องราวของภาพที่สมบูรณ์เต็มที่ตามที่ต้องการ

“การใช้เลนส์ Sony E-Mount กับกล้อง Cinema Line FX3 และ FX6 ช่วยให้เราใช้ความสามารถในการโฟกัสอัตโนมัติของกล้อง ทำให้ได้การโฟกัสที่แม่นยำระหว่างถ่ายทำช่วงเวลาที่เกิดขึ้นโดยไม่คาดคิด” คุณไก่อธิบาย “ด้วยระบบโฟกัสอัตโนมัติแบบไฮบริดที่รวดเร็วและแม่นยำของกล้อง Cinema Line ผมจึงได้การโฟกัสอัตโนมัติที่คมชัดของตัวเอกในทุก ๆ เฟรม แม้ในฉากที่ท้าทายและรวดเร็วซึ่งถ่ายทำแบบสโลว์โมชั่น”

ชุดอุปกรณ์ที่เรียบง่ายและกะทัดรัด

เวลาที่ถ่ายสัตว์และเด็ก ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้คือ การที่นางเอกตัวน้อยของคุณหวาดกลัวอุปกรณ์การถ่ายทำระดับสตูดิโอ ความกะทัดรัดของกล้อง Cinema Line ช่วยสร้างบรรยากาศที่เป็นกันเองให้ตัวเด็กเปิดใจรับคุณและเปิดโอกาสให้ถ่ายในสภาพแวดล้อมที่เป็นตัวเองได้อย่างใกล้ชิด

“ด้วยการปรับลดรายละเอียดของชุดอุปกรณ์กล้องลง เราได้สร้างสภาพแวดล้อมที่ชวนให้เข้าใกล้มากขึ้นและน่ากลัวน้อยลงสำหรับตัวเอกในเรื่องของเรา” คุณไก่เล่า “ชามารู้สึกสบายใจและเป็นตัวเองต่อหน้ากล้อง ทำให้เราได้ฟุตเทจที่สมจริงและดูผ่อนคลาย”

ภาพสีสันสดใสอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

ุกการถ่ายทำที่มีทั้งฉากในร่มและกลางแจ้ง การดูแลแสงให้สม่ำเสมอกันนั้นเป็นเรื่องยาก ฟิลเตอร์ลดความเข้มของแสง (ND) แบบปรับได้ด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์จะช่วยให้มั่นใจถึงความราบรื่นในการเปลี่ยนฉากจากในร่มสู่กลางแจ้ง ช่วงไดนามิก 15+ สต็อปในกล้องทั้งสองตัวช่วยให้ไก่สามารถบันทึกรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ในส่วนเงามืดและส่วนสว่างได้

กล้อง Cinema Line มาพร้อมศาสตร์แห่งสีระดับภาพยนตร์ที่ได้รับสืบทอดมาจาก VENICE 2 ซึ่งมักใช้กันในโปรดักชั่นขนาดใหญ่ ด้วยเหตุนี้ กระบวนการหลังการผลิตจึงราบรื่นยิ่งขึ้น ช่วยมอบผลลัพธ์สุดท้ายที่ดูเป็นเนื้อเดียวกันยิ่งกว่าเดิม

จบการถ่ายทำ!

ในฐานะผู้กำกับภาพยนตร์ที่ให้คุณค่ากับการแสดงออกอย่างเป็นธรรมชาติ กล้อง Cinema Line ที่มีความอเนกประสงค์และกะทัดรัดช่วยให้ไก่สามารถบันทึกช่วงเวลาจริงนอกบทได้อย่างมีประสิทธิภาพและไขว่คว้ามุมมองการสร้างสรรค์ของตนได้อย่างกล้าหาญ ในบทสรุปการเดินทางตลอดการถ่ายทำ ชามา คุณไก่กล่าวว่า: “กล้องตัวนี้ช่วยให้ผมสามารถเติมชีวิตให้กับเรื่องราว บันทึกความงดงามและความเป็นจริงได้ในทุกช่วงเวลา”

ชมตัวอย่างและเบื้องหลังการถ่ายทำ ฌามา

Status

Pending Approval

Status

Pending Approval

ผลิตภัณฑ์แ

ฑ์แนะนำ

FX6

Cinema Line Full-Frame Camera for All levels of Filmmakers

FX3

Cinema Line Full-Frame Camera with ultra compact and lightweight

FE 35mm F1.4 GM

G Master Wide Prime Lens for Full Frame

FE 50mm F1.2 GM

G Master Standard Prime Lens for Full Frame

FE 70-200mm F2.8 GM OSS

G Master Telephoto Zoom Lens for Full Frame

FE 24-70mm F2.8 GM

G Master Standard Zoom Lens for Full Frame

FE 16-35mm F2.8 GM

G Master Wide Zoom Lens for Full Frame

FE 600mm F4 GM OSS

G Master Super-tele Prime Lens for Full Frame

ECM-M1

Shotgun Microphone

ECM-B10

Shotgun Microphone

ECM-W2BT

Wireless Microphone

Article Theme

การสร้างภาพยนตร์

FE 24-70mm F2.8 GM II | Shoot clear and focused images from a distance | Review by Gary Wong

Harriman — Tue, 23 May 2023 05:54:11 +0000

FE 24-70mm F2.8 GM II | ถ่ายภาพจากระยะไกลได้อย่างคมชัด | โดย Gary Wong

Harriman Tue, 05/23/2023 - 11:24

Article Categories

บทวิจารณ์

Video Name

World of Film 2022-2023 | Happy Taxi

ภาพยนตร์สั้น: Happy Taxi Day

ภาพยนตร์สั้นเรื่องนี้พาผู้ชมดำดิ่งไปกับเรื่องราวของ Lam Kin Wah คนขับแท็กซี่สูงวัยที่คร่ำครวญในสิ่งที่ลูกชายของเขาตัดสินใจที่จะย้ายไปอยู่ต่างประเทศและพาหลานสาวสุดที่รักของเขาออกห่างไกลจากบ้านเกิดเมืองนอนและห่างไกลจากตัวเขาเอง ในขณะที่เขารำลึกความหลังในรถแท็กซี่ เด็กสาวคนหนึ่งก็ขึ้นมาบนรถของเขาอย่างไม่ทันตั้งตัวและขอให้เขาขับไปส่งที่บ้าน คนขับแท็กซี่ที่เหนื่อยล้าเต็มที่แล้วตอบตกลงอย่างไม่เต็มใจ ซึ่งกลายเป็นว่าทั้งคู่ก็ได้ใช้เวลาไปกับวันพิเศษด้วยกัน

ภาพยนตร์ดราม่าแสนอบอุ่นใจเรื่องนี้ถ่ายทำด้วยกล้อง Alpha FX3 และ Alpha 7S III ซึ่งพาผู้ชมโดยสารไปกับเที่ยวรถแท็กซี่ที่ยากจะลืมเลือนและเส้นทางที่ทำให้ผู้ชมต้องหลั่งน้ำตาอย่างเลี่ยงไม่ได้จากบทสรุปสุดซึ้งของเรื่อง

ดำดิ่งไปกับจินตนาการของ Garry Wong นักสร้างภาพยนตร์ในบทสัมภาษณ์เชิงลึกของเราแล้วเรียนรู้เกี่ยวกับแรงบันดาลใจในการสร้างภาพยนตร์ของเขา ความท้าทาย และความฝังใฝ่ของเขา รวมถึงเรื่องราวหนึ่งที่เขายังคงรวบรวมความกล้าเพื่อแบ่งปันกับผู้ชม

ผลิตภัณฑ์แ

ฑ์แนะนำ

Alpha 7S III

Full Frame Camera with Pro Movie/Still Capability

FE 24-70mm F2.8 GM II

G Master Standard Zoom Lens for Full Frame

ECM-B1M

Shotgun Microphone

ECM-W2BT

Wireless Microphone

GP-VPT2BT

Shooting Grip with Wireless Remote Commander

Article Theme

การสร้างภาพยนตร์

FE 16-35mm F4 ZA OSS | Ideal for filming on travels | Review by Gift Lee

Harriman — Thu, 18 May 2023 10:10:49 +0000

FE 16-35mm F4 | เหมาะกับการถ่ายวิดีโอระหว่างท่องเที่ยว | โดย Gift Lee

Harriman Thu, 05/18/2023 - 15:40

Article Categories

บทวิจารณ์

แรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ การเลือกอุปกรณ์

ในระหว่างการเดินทาง เราเสี่ยงต่อธรรมชาติ - ท่านสามารถตรวจสอบพยากรณ์อากาศได้ แต่ไม่สมารถทำนายสภาพอากาศได้จริง ๆ เมื่อไปถึงจุหมายปลายทาง ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของความตื่นเต้นในการถ่ายวีดิโอการเดินทาง! สิ่งที่แน่นอนอย่างหนึ่งไม่ว่าเมื่อไรก็ตามหรือไม่ว่าที่ใดก็ตามที่ข้าพเจ้าเดินทาง - ข้าพเจ้าจะแพคเลนส์ FE 16-35mm F4 ZA OSS และ กล้อง Alpha 7C ของข้าพเจ้าไปด้วยเสมอ

ความมหัศจรรย์ของเลนส์ซูมระหว่างการเดินทางของท่าน

ต่อไปนี้เป็นข้อเท็จจริงสนุก ๆ - วีดิโอการเดินทางจำนวนมากที่ข้าพเจ้าโปรดปรานเป็นวีดิโอที่ไม่ได้มีการวางแผนไว้ล่วงหน้าและถูกถ่ายตามทางระหว่างเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางที่ตั้งใจไว้ มันเป็นความมหัศจรรย์ในการเดินทางไปกับอุปกรณ์ที่ท่านรัก โดยการออกแบบ เลนส์ซูมเป็นเลนส์ที่มีความยาวโฟกัสหลายช่วงและสิ่งนี้มอบอรรถประโยชน์อันน่าอัศจรรย์ให้แก่ท่าน

การมีความหลากหลายในการจัดเฟรมของท่านเป็นกุญแจสำคัญของการเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ด้วยวีดิโอของท่าน และเลนส์ซูมทำให้ท่านสามารถสร้างภาพถ่ายที่มีความหลากหลายได้โดยไม่ต้องขยับร่างกายของท่านเข้าไปหรือถอยออกมา

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เลนส์ FE 16-35mm F4 ZA OSS น่าประทับใจสำหรับการบันทึกภาพทุกสิ่งที่ข้าพเจ้าต้องการไว้ในวีดิโอการเดินทางของข้าพเจ้า - ความกว้างใหญ่ไพศาลของภูมิทัศน์ที่เปิดกว้าง ตัวแบบของข้าพเจ้า (กล่าวคือ ตัวละครหลักในวีดิโอ/เรื่องราวของข้าพเจ้า) และรายละเอียดอันงดงามทั้งหมดที่สร้างประสบการณ์ทางสายตาอันดื่มด่ำและน่าเชื่อถือยิ่งขึ้นสำหรับผู้ชม

การถ่ายภาพที่ข้าพเจ้าโปรดปราน - เบื้องหลังการถ่ายทำ

ฉาก 1: แสงจันทร์ในประเทศไทยโดยใช้เทคนิคการถ่ายภาพเร่งเวลา (time-lapse) (00:02)

ฉากเปิดเรื่องสำหรับวีดิโอนี้เป็นการถ่ายภาพเร่งเวลา (time-lapse) ของท้องฟ้ายามเย็น โดยทั่วไป ท้องฟ้าเดือนกุมภาพันธ์ในประเทศไทยจะปลอดโปร่ง (เดือนที่ข้าพเจ้าถ่ายภาพนี้) ซึ่งยอดเยี่ยมสำหรับการถ่ายภาพที่ชัดเจน นอกจากนี้ วงจรของดวงจันทร์ยังเหมาะสำหรับการถ่ายภาพระหว่างเวลา 20.00น. ถึง 6.00น. (กล่าวคือ แสงจันทร์จะไม่ส่งผลกระทบต่อการถ่ายภาพเร่งเวลา)

Alpha 7C | FE 16-35mm F4 ZA OSS | 16mm | F4 | 1/30s | ISO 1600

ตั้งกล้องให้ต่ำถึงระดับพื้นแล้วแหงนกล้องขึ้นเพื่อเน้นเส้นขอบฟ้า

โฟกัสของภาพที่ถ่ายนี้คือเต็นท์ที่ข้าพเจ้ากางไว้ ในตอนแรก ภาพจะดูแบน ดังนั้น ข้าพเจ้าจึงได้ตัดสินใจนำตะเกียงไปวางไว้ด้านในเพื่อสร้างภาพให้น่าสนใจยิ่งขึ้น - และข้าพเจ้าชอบสิ่งที่ปรากฏออกมาจริง ๆ!

ดาราที่อยู่เบื้องหลังการถ่ายทำ คือเลนส์ FE 16-35mm F4 ZA OSS เลนส์ตัวนี้ทำงานได้อย่างโดดเด่นในสภาพแสงต่ำ แม้ว่าจะมีลมแรงทำให้กล้องสั่นตลอดคืน แต่ระบบ Optical SteadyShot (OSS) ในตัวของเลนส์ FE 16-35mm F4 ZA OSS ทำให้ภาพสดใสและสวยงาม

ฉาก 2: ภาพป่าสนในเชิงศิลปะ (00:12)

วีดิโอนี้ถูกถ่ายในป่าสนแห่งหนึ่งในช่วงเช้า หนึ่งในสิ่งที่น่าสนใจของภาพที่ถ่ายนี้คือลูกสนจำนวนมากที่กระจายเกลื่อนอยู่บนพื้นดิน พวกมันช่วยเพิ่มเลเยอร์ของพื้นผิวและรายละเอียดที่น่าสนใจ และช่วยทำให้องค์ประกอบในการเล่าเรื่องของวีดิโอดียิ่งขึ้น

Alpha 7C | FE 16-35mm F4 ZA OSS | 16mm | F4 | 1/50s | ISO 400

เติมเต็มเฟรมโดยให้กล้องของท่านอยู่ใกล้กับตัวแบบ

ข้าพเจ้ารู้สึกว่าวิธีที่ยอดเยี่ยมในการแสดงให้เห็นสภาพแวดล้อมคือการแสดงภาพของป่าอย่างช้า ๆ ข้าพเจ้าได้นั่งอยู่บนพื้นดินและสร้างภาพทิ้ลท์ (tilt shot) ซึ่งเริ่มต้นโดยการโฟกัสที่ลูกสนลูกเดียว - ก่อนจะค่อย ๆ แหงนกล้องขึ้นเพื่อแสดงให้เห็นภาพมุมกว้างของป่าสนอันยิ่งใหญ่

โดยการใช้ฟังก์ชั่นโคลสอัพที่ระยะ 0.28 เมตร ของเลนส์ FE 16-35mm F4 ZA OSSลูกสนดูคมชัดและอยู่ในโฟกัส ในขณะที่ถูกล้อมรอบด้วยโบเก้ (bokeh) ที่ดูเป็นธรรมชาติ เลนส์มีออโต้โฟกัสที่นุ่มนวลและแม่นยำ ซึ่งทำให้การเปลี่ยนผ่านจากภาพลูกสนไปสู่ภาพป่ามีความไหลลื่นและเป็นธรรมชาติอย่างยิ่ง

ฉาก 3: เดินเล่นในป่า (00:22)

นี่เป็นอีกหนึ่งในฉากที่ข้าพเจ้าโปรดปราน - ตัวละครกำลังเดินอยู่ในป่า ข้าพเจ้าชอบความกว้างของเลนส์ตัวนี้ เนื่องจากมันสามารถแสดงให้เห็นต้นสนสูงตระหง่านและเงาเรียงซ้อนกันที่พวกมันสร้างขึ้น ฉากนี้งดงามมากในความเป็นจริง และมุมกว้างของเลนส์FE 16-35mm F4 ZA OSS ได้เก็บภาพฉากนี้ไว้อย่างสมบูรณ์ - โดยสร้างประสบการณ์ทางสายตาอันดื่มด่ำสำหรับผู้ชม

Alpha 7C | FE 16-35mm F4 ZA OSS | 16m | F4 | 1/50s | ISO 400

เพื่อสร้างภาพถ่ายที่เป็นธรรมชาติและไม่สะดุด ให้อยู่ห่างในระยะเดียวกันจาก (และเคลื่อนไหวด้วยความเร็วเดียวกันกับ) ตัวแบบของท่านตลอดการถ่ายภาพทั้งหมด

ฉาก 4: ถนนที่เต็มไปด้วยฝุ่นละอองและภูมิทัศน์ที่ซ่อนตัวอยู่ (00:44)

ในการขับรถครั้งหนึ่ง ข้าพเจ้าได้มีโอกาสพบกับภูมิทัศน์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะซ่อนอยู่ท่ามกลางภูเขา มันเป็นเนินเต็มไปด้วยก้อนเหินซึ่งทำให้สภาพแวดล้อมเหมือนกับอยู่ในโลกอื่น - เหมาะที่สุดสำหรับการเล่าเรื่องราวในวีดิโอ ข้าพเจ้าได้ขอให้ตัวแบบของข้าพเจ้าเดินข้ามเนินและได้ติดตามการเดินทางของเธอด้วยกล้องของข้าพเจ้า

Alpha 7C | FE 16-35mm F4 ZA OSS | 16mm | F11 | 1/50s | ISO 125

ใช้ส่วนที่อยู่ด้านหน้าฉากเพื่อสร้างความรู้สึกถึงความชัดลึกและการเคลื่อนไหว

การถ่ายภาพนี้เกิดขึ้นตอนต้นฤดูแล้งของชนบท ดังนั้น สภาพแวดล้อมจึงแห้งมากและเต็มไปด้วยฝุ่นละออง สภาพเหล่านี้อาจสร้างความกังวลสำหรับอุปกรณ์อื่นบางชิ้น แต่ข้าพเจ้ามั่นใจในเลนส์ FE 16-35mm F4 ZA OSS ซึ่งสามารถป้องกันฝุ่นละอองได้ (dust-proof) ของข้าพเจ้า โดยมันยังคงทำงานอย่างมีประสิทธิภาพภายใต้สภาวะที่ท้าทายดังกล่าว

สิ่งที่ทำให้ฉากนี้ถ่ายได้ง่ายขึ้น (และสนุกขึ้น) ได้แก่ ความมีน้ำหนักเบาของเลนส์ FE 16-35mm F4 ZA OSS และ กล้อง Alpha 7C - ซึ่งสามารถพกพาไปทุกที่ได้สะดวกอย่างยิ่งและถือได้ง่าย

ฉาก 5: เก็บภาพความงดงามของจังหวัดแม่ฮ่องสอน (00:50)

ภาพนี้ได้รับความนิยมมากเนื่องจากมันทำให้ผู้ชมรู้สึกเหมือนกับอยู่ใน Jurassic Park! ในความเป็นจริง ข้าพเจ้าได้ถ่ายภาพนี้ที่ แผ่นดินแยก (Pai Land Split) ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดแม่ฮ่องสอน แผ่นดินแยก (Pai Land Split) เป็นแคนยอนที่เต็มไปด้วยต้นเฟิร์นอันงดงาม และข้าพเจ้าได้ตัดสินใจแสดงให้เห็นภาพวิวอันพิศวงโดยการถ่ายภาพแพนแพนกล้องที่แสดงให้เห็นรายละเอียดของใบไม้รวมทั้งแคนยอนที่ให้ความรู้สึกน่ายำเกรงในฉากหลัง

Alpha 7C | FE 16-35mm F4 ZA OSS | 16mm | F4 | 1/50s | ISO 400

สำหรับการถ่ายภาพแพนกล้องที่ยอดเยี่ยม ให้ถือกล้องไว้นิ่ง ๆ และขยับกล้องด้วยร่างกายของท่าน (ไม่ใช่ด้วยมือของท่าน)

ที่นี่เป็นสถานที่ที่เลนส์FE 16-35mm F4 ZA OSS มีความโดดเด่น! การเปลี่ยนผ่านระหว่างสองระยะ - ใบไม้และแคนยอน - กระทำได้ง่ายและนุ่มนวล (โดยไม่มีการเปลี่ยนผ่านแบบ "กระทันหัน" หรือน่ารำคาญ ซึ่งอาจเกิดขึ้นในเลนส์อื่นบางตัว)

ฉาก 6: ฉากที่สงบเงียบ (00:35)

นี่เป็นอีกภาพหนึ่งที่ไม่ได้วางแผนไว้ล่วงหน้าซึ่งอยู่ใน "8 อันดับแรก" ในอัลบั้มส่วนตัวของข้าพเจ้า ในขณะที่ข้าพเจ้าขับรถผ่านลำธารแห่งหนึ่งและรู้สึกหลงใหลในความงดงามของมันที่สุด ความชัดลึก สีสัน พื้นผิวของธรรมชาติที่อยู่ในฉาก - ซึ่งประกอบด้วยหิน ลำธาร และ ภูเขาในฉากหลัง - ให้ความรู้สึกเหมือนกับเรื่องราวที่อยู่ภายในเรื่องราวอีกทีหนึ่ง สภาพแวดล้อมดังกล่าวทำให้ข้าพเจ้าหลงใหล

Alpha 7C | FE 16-35mm F4 ZA OSS | 28mm | F11 | 1/50s | 400

ใช้ความยาวโฟกัสเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเพื่อบีบฉากหลังในภาพของท่าน

ข้าพเจ้าต้องการเก็บภาพรายละเอียดเล็กน้อยทุกอย่าง และข้าพเจ้าสามารถทำได้ด้วยเลนส์FE 16-35mm F4 ZA OSSด้วยฟิลเตอร์ CPL ข้าพเจ้าสามารถถ่ายภาพฉากที่งามดั่งภาพวาดนี้ได้อย่างชัดเจนด้วยความละเอียดสูงและด้วยสีสันซึ่งมีชีวิตชีวาที่สารถนำผู้ชมเข้าไปในฉากอย่าง่แท้จริง - แทบจะราวกับว่าพวกเขากำลังยืนอยู่ที่นั่นพร้อมกับข้าพเจ้า

ฉาก 7: ส่วนหนึ่งของสวรรค์ที่ซ่อนอยู่บนพื้นโลก (00:29)

ที่นี่เป็นอีกจุดหนึ่งที่ซ่อนตัวอยู่ในจังหวัดแม่ฮ่องสอนซึ่งข้าพเจ้าต้องเก็บภาพด้วยกล้องของข้าพเจ้า เนินหญ้าที่แผ่ขยายออกไปไม่สิ้นสุดและแนวโค้งของถนนในชนบทดูเหมือนจะไปข้างหน้าตลอดไป - ซึ่งทำให้ท่านตรึกตรองเกี่ยวกับการแผ่ขยายออกไปของธรรมชาติและชื่นชมโลกที่อยู่รอบตัวเราเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อย

Alpha 7C | FE 16-35mm F4 ZA OSS | 16mm | F8 | 1/50s | ISO 125

โดยการถ่ายภาพหันไปทางดวงอาทิตย์ ท่านสามารถสร้างขอบแสงซึ่งช่วยแยกตัวแบบของท่านออกจากฉากหลังได้

อีกครั้งหนึ่ง ภาพนี้ถูกถ่ายในช่วงฤดูแล้ง - ซึ่งหมายถึงฝุ่นละอองจำนวนมากที่ช่วยเพิ่มองค์ประกอบอันน่าสนใจให้แก่ภาพและความต้องการอุปกรณ์ที่ข้าพเจ้าสามารถไว้วางใจได้ในสภาพแวดล้อมอันโหดร้ายเช่นนี้

สำหรับภาพแรกนี้ ข้าพเจ้าได้ใช้เความยาวโฟกัส 16mm ซึ่งทำให้ฉากมีความชัดลึกและมีความครอบคลุมเพิ่มขึ้น

ฉาก 8: น้ำตกหมอกฟ้า (00:34)

จังหวัดเชียงใหม่ (ประเทศไทย) มีน้ำตกที่งดงามเป็นจำนวนมาก แต่น้ำตกหมอกฟ้าต้องเป็นหนึ่งในน้ำตกที่งดงามยิ่ง เมื่อถ่ายภาพน้ำตก ให้เตรียมพร้อมสำหรับสภาพแสงต่ำ ภาวะความชื้นสูง และให้เลือกอุปกรณ์ของท่านอย่างชาญฉลาด!

Alpha 7C | FE 16-35mm F4 ZA OSS | 16mm | F8 | ISO 640

เมื่อถ่ายภาพน้ำตก ให้เลือกช่วงเวลาที่ไม่มีแสงอาทิตย์ส่องตรงเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้บริเวณที่เป็นไฮไลท์หายไป

ท่านทราบอยู่แล้วว่าเลนส์ซูมที่ข้าพเจ้าโปรดปรานคือเลนส์ FE 16-35mm F4 ZA OSS และด้วยเหตุผลที่ดีเช่นกัน มันไม่ได้เพียงแต่ถ่ายภาพและบันทึกวีดิโอได้อย่างอันอัศจรรย์ (ตามที่ท่านได้เห็นแล้วข้างต้น) เท่านั้น แต่มันยังสามารถป้องกันความชื้น (moisture-proof) และมีระบบ Optical SteadyShot (OSS) ในตัวด้วยเช่นกัน ซึ่งทำให้มันเหมาะสำหรับการถ่ายภาพในสถานที่อย่างเช่นน้ำตกและสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูงหรือมีลมแรง

ค้นหาแรงบันดาลที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของท่าน

โดยส่วนใหญ่ ข้าพเจ้าได้รับแรงบันดาลใจจากการดูผลงานของผู้สร้างภาพยนตร์และผู้สร้างสรรค์วีดิโอที่มีชื่อเสียง และเพลิดเพลินอย่างยิ่งกับการไปดู "เบื้องหลังการถ่ายทำ" - ซึ่งทำให้เข้าใจกระบวนการคิดของพวกเขา เลนส์ที่เลือก และวิธีที่ผู้สร้างสรรค์เหล่านี้เล่าเรื่องราวและกระตุ้นอารมรณ์ผ่านงานศิลปะของพวกเขา

สำหรับข้าพเจ้า ชีวิตประจำวันอาจทำให้รู้สึกน่าเบื่อในบางครั้ง - แต่การเดินทางไปในสถานที่ที่แตกต่างออกไปและการอยู่กับธรรมชาติทำให้ข้าพเจ้ากลับมากระปรี้กระเปร่าและทำให้ข้าพเจ้าเกิดแรงบันดาลใจ!

หากท่านกำลังรู้สึก "ติดขัด" คำถามที่เป็นประโยชน์ที่ควรถามอาจจะเป็น "สิ่งใดทำให้ชีวิตของข้าพเจ้าสนุกสนาน เติมเต็ม และมีความหมายบ้าง?" นั่นคือที่ที่มีแรงบันดาลใจสำหรับท่าน

ผลิตภัณฑ์แ

ฑ์แนะนำ

Alpha 7C

Compact Full Frame Camera

Vario-Tessar T* FE 16-35mm F4 ZA OSS

ZEISS Wide Zoom Lens for Full Frame

ECM-B1M

Shotgun Microphone

ECM-W2BT

Wireless Microphone

GP-VPT2BT

Shooting Grip with Wireless Remote Commander

Article Theme

การสร้างภาพยนตร์

ธรรมชาติ/ทิวทัศน์

การท่องเที่ยว

FE 14mm F1.8 GM | Shoot daily life shots conveniently | Review by Ray Kay

Harriman — Thu, 18 May 2023 07:56:18 +0000

FE 14mm F1.8 GM | สะดวกในการถ่ายภาพชีวิตประจำวัน | โดย Ray Kay

Harriman Thu, 05/18/2023 - 13:26

Article Categories

บทวิจารณ์

Video Name

Daily | Main

ลักษณะที่น่าสนใจของการถ่ายวิดีโอ

ผมเริ่มต้นอาชีพในฐานะช่างภาพและรักการถ่ายภาพพอร์ตเทรตมาโดยตลอด ในการเดินทางและในชีวิตประจําวันของผม ผมจะถ่ายภาพสถานที่ที่สวยงามและผู้คนรอบตัว ผมเขียนบันทึกลงในสมุดบันทึกของผมในขณะที่ผมถ่ายภาพนั้นๆ ผมสนุกกับเรื่องราวในภาพที่ผมถ่าย แต่ผมก็รู้สึกเสมอว่าผมต้องการถ่ายภาพให้ได้มากกว่านี้

ในปี 2019 ผมเดินทางไปไอซ์แลนด์และหลงใหลกับสภาพแวดล้อมและภูมิทัศน์ที่น่าตื่นตาตื่นใจรอบตัวผม ในช่วงเวลานั้น ผมตัดสินใจที่จะเก็บความทรงจําเหล่านั้นในวิดีโอ และนั่นคือจุดที่ผมเริ่มถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องแรกของผม คือ "Love Youth" และเป็นจุดเริ่มต้นในการเดินทางสร้างภาพยนตร์ของผม

ทำไมผมถึงถ่ายด้วยเลนส์ไพร์ม

ผมได้แรงบันดาลใจจากแสงและเงา โดยเฉพาะช่วงแสงน้อยและเงาที่ตกทอดยาวเป็นดั่งช่วงเวลา "นาทีทอง" ทั้งตึก ผู้คน และธรรมชาติจะสวยเป็นพิเศษเมื่อเงาและแสงมารวมกัน

เมื่อออกไปข้างนอก กล้องและเลนส์ที่ผมเลือกคือ Sony Alpha 7C และเลนส์ไพร์ม ระยะ FE 14mm ความกว้างของรูรับแสง F1.8 GM ทำไมต้องเลนส์ไพร์ม? ผมชอบที่เลนส์ไพร์มมีค่ารูรับแสงที่สว่างกว่าและความละเอียดดีกว่าเลนส์ซูม ทำให้ระยะภาพดูชัดลึกมีความหลากหลายมากขึ้น โดยเฉพาะการถ่ายภาพระยะใกล้ ภาพจะดูน่าทึ่งมาก

ผมเป็นแฟนตัวยงเลนส์ไพร์ม G Master ของ Sony และมีเก็บไว้เกือบทุกตัวพร้อมกับเลนส์ซูมอีกสองสามตัวเช่นกัน

วันนี้ ผมจะมาแชร์ทริปการถ่ายวิดีโอ และใช้ฉากจากภาพยนตร์ของฉันเพื่อยกตัวอย่าง ฉันหวังว่าคุณจะนำสิ่งเหล่านี้ไปใช้ประโยชน์เมื่อคุณถ่ายวิดีโอของคุณ

Alpha 7C | FE 14mm F1.8 GM | 1/60 sec | ISO 500

ฉากที่ 1: เปลี่ยนสภาพแสงจากในห้องให้เป็นแสงข้างนอก

นี่เป็นภาพที่น่าสนใจด้วยเหตุผลสองประการคือ ประการแรกมันจะทำให้ภาพถ่ายข้างในที่มืดๆ ดูสว่างเหมือนถ่ายข้างนอก ประการที่สองคือ ทางเข้าประตูดูแคบเป็นพิเศษ ซึ่งเปิดโอกาสให้เห็นพื้นที่ทั้งสองคอนทราสต์กัน

ตอนที่ผมถ่ายฉากนี้โดยใช้รูรับแสงแบบปิด ผมไม่จำเป็นต้องใส่ใจกับระยะโฟกัสเป็นพิเศษ ซึ่งหมายความว่าผมมีอิสระในการปรับระยะห่างและมุมเพื่อให้ได้ "ภาพที่สมบูรณ์แบบ" เลนส์ไพร์ม ระยะ FE 14mm ความกว้างของรูรับแสง F1.8 GM ของผม ทําให้ผมสามารถจับภาพผ่านประตูแคบๆ นี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ

ผมทําให้ฉากนี้ดูน่าทึ่งยิ่งขึ้น โดยใช้คอนทราสต์สูงเพื่อเน้นเงาจริงๆ พอผมรู้ว่าพื้นหลังสว่าง เต็มไปด้วยพื้นผิว และรายละเอียด ผมก็ตั้งค่ารูรับแสงไว้ที่ 16 และจับภาพความสั่นสะเทือนของฉากให้ได้มากที่สุด

Alpha 7C | FE 14mm F1.8 GM | 1/60 sec | ISO 500

ฉากที่ 2: ภาพโมชั่นท่ามกลางธรรมชาติอันกว้างใหญ่

นี่เป็นอีกฉากนึงที่ใช้แสงเยอะมาก ซึ่งในครั้งนี้ เราออกไปถ่ายตอนบ่ายโมง ดวงอาทิตย์อยู่ในตำแหน่งสูงที่สุด ฉากนี้ใช้สถานที่เป็นทุ่งหญ้าที่สวยงามเหมือนภาพวาดพร้อมหญ้าสูงล้อมรอบองค์ประกอบศิลป์ของผม

เพื่อให้ภาพนี้ให้ความรู้สึกที่สมบูรณ์แบบ ผมจึงใช้โฟกัสในระยะอนันต์และตั้งค่ารูรับแสงที่ 16 ผมปรับความกลมกลืนขององค์ประกอบต่าง ๆ ทั้งหมดในเฟรมให้เท่ากัน แทนที่จะปรับระยะขององค์ประกอบศิลป์และกล้อง วิธีนี้ทำให้ผมสามารถเก็บรายละเอียดของสภาพแวดล้อมที่สวยงามไม่เหมือนใครได้ทั้งหมด ทั้งหญ้าและองค์ประกอบศิลป์ในการถ่ายแบบใส่ฉากหน้า รวมถึงการถ่ายต้นไม้ ภูเขา และท้องฟ้าในระยะไกล

ถ่ายด้วยเฟรมเรทที่ 29.9fps ใช้สปีทชัตเตอร์ที่ 1/60 สร้างภาพเบลอจากการเคลื่อนไหวที่สวยงาม ในขณะที่ถ่ายภาพรายละเอียดต่างๆ เช่น หญ้าที่แกว่งไปมาและผมของนางแบบเคลื่อนที่ขณะวิ่งผ่านสนาม ผมถ่ายภาพนี้จากมุมต่ำเพื่อให้ได้ภาพที่สมบูรณ์แบบของการเคลื่อนที่ของนางแบบที่กระพรือให้หญ้าเคลื่อนไหว

Alpha 7C | FE 14mm F1.8 GM | 1/60 sec | ISO 6400

ฉากที่ 3: แสงสว่างจากเทียนไขในที่มืด

ฉากนี้ถ่ายทําในพื้นที่ที่มืดสนิท มีเพียงแสงเทียนที่ให้แสงสว่างกับสิ่งแวดล้อม

ภาพนี้ใกล้เคียงกับการถ่ายภาพมาโครมาก โดยมีระยะการถ่ายภาพประมาณ 25cm ในระหว่างการถ่ายภาพระยะใกล้เหล่านี้ ผมตั้งค่ารูรับแสงบนเลนส์ FE 14mm F1.8 GM เพื่อให้เลนส์เปิดกว้าง ซึ่งจะสร้างเอฟเฟ็กต์โบเก้ที่นุ่มนวลและสวยงามในภาพพื้นหลัง

ในวิดีโอของคุณ คุณสามารถใช้เทียนหรือไฟขนาดเล็ก (เช่น ไฟต้นคริสต์มาส) เพื่อเพิ่มเอฟเฟ็กต์โบเก้และสร้างภาพที่ยอดเยี่ยมได้!

วิดีโอทั่วไป แต่ไม่ใช่ไอเดียโดยทั่วไป

Video Name

Daily | Interview

ผมชอบบันทึกฉากที่สวยงาม และชอบใช้การถ่ายด้วยระยะชัดตื้น เพราะมันเพิ่มความเข้มทางอารมณ์ของฉาก และเนื่องจากสิ่งที่ผมบันทึกไว้มากมายเกี่ยวกับชีวิตประจำวัน ด้วยน้ำหนักที่เบาของ Sony Alpha 7C และ เลนส์ระยะ FE 14mm ความกว้างของรูรับแสง F1.8 GM กล้องตัวนี้จึงเป็นเพื่อนร่วมทางที่ยอดเยี่ยมในการผจญภัยการสร้างภาพยนตร์ของผม!

ผลิตภัณฑ์แ

ฑ์แนะนำ

Alpha 7C

Compact Full Frame Camera

FE 14mm F1.8 GM

G Master Ultra wide Prime Lens for Full Frame

ECM-B1M

Shotgun Microphone

ECM-W2BT

Wireless Microphone

GP-VPT2BT

Shooting Grip with Wireless Remote Commander

Article Theme

FE 14mm F1.8 GM | Capture intriguing timelapse shots | Review by Phong Yap Hui

Harriman — Wed, 17 May 2023 06:51:04 +0000

FE 14mm F1.8 GM | ถ่ายภาพไทม์แลปส์ที่น่าสนใจ | โดย Phong Yap Hui

Harriman Wed, 05/17/2023 - 12:21

Article Categories

บทวิจารณ์

มนต์เสน่ห์ของการถ่ายภาพแบบไทม์แลปส์

ภาพถ่ายภาพไทม์แลปส์เป็นการถ่ายภาพในลักษณะที่น่าสนใจซึ่งบีบอัดระยะเวลาที่ยาวนานให้เหลือเพียงนาทีและวินาที ซึ่งช่วยให้ผู้ชมได้เห็นว่าภูมิทัศน์หรือสภาพแวดล้อมสามารถเปลี่ยนแปลงตามโลกที่หมุนเวียนรอบตัวเองและธรรมชาติที่เผยความน่ามหัศจรรย์ของมันตลอดทั้งกลางวันและกลางคืน

หลักการถ่ายภาพไทม์แลปส์นั้นเรียบง่าย แต่น่าสนใจอย่างยิ่ง หลักการพื้นฐานก็คือการคุ้นเคยกับระยะเวลาของปรากฏการณ์ที่คุณต้องการเก็บภาพ อย่างเช่น หากคุณถ่ายภาพพระอาทิตย์ขึ้นหรือตกดิน คุณก็จะได้รู้ว่ากระบวนการเมื่อพระอาทิตย์ขึ้นหรือตกดินใช้เวลาราวๆ หนึ่งชั่วโมง เมื่อเข้าใจตรงนี้แล้ว คุณก็จะสามารถวางแผนการถ่ายภาพ การตั้งค่า การจัดการกับแบตเตอรี่ของกล้อง และอื่นๆ ได้

ชุดกล้องและเลนส์ที่ฉันชื่นชอบเป็นการส่วนตัวก็คือ Alpha 1 และเลนส์ไพร์ม FE 14mm F1.8 GM ซึ่งเหมาะสำหรับการเก็บภาพไทม์แลปส์อย่างแท้จริง

พระอาทิตย์ตกในชางบิน

Alpha 1 | FE 14mm F1.8 GM | F16 | 1/2s | ISO 100

Alpha 1 | FE 14mm F1.8 GM | F8 | 1/3s | ISO 100

ตอนที่ถ่ายภาพพระอาทิตย์ตกดินในชางบิน ฉันประมาณเอาไว้ว่าการถ่ายภาพจะใช้เวลาราวๆ 45 นาที โดยเริ่มถ่าย 15 นาทีก่อนอาทิตย์ขึ้นและถ่ายไว้อีก 30 นาที หลังจากนั้น

การคำนวณจึงเป็นประโยชน์ในจุดนี้ 45 นาทีเท่ากับ 2,700 วินาที ซึ่งช่วยให้ฉันสามารถถ่ายภาพไทม์แลปส์ได้กว่า 900 ภาพในอัตราหนึ่งภาพต่อทุกๆ สามวินาที โปรดจำไว้ว่าการขยายเวลาเปิดรับแสงจะสามารถลดความไวแสงเพื่อแลกคุณภาพภาพที่ดีขึ้นได้ ในการตั้งค่ากล้อง Alpha 1 คุณจะพบการตั้งค่า ISO AUTO ด้วยความเร็วขั้นต่ำ 2 ค่า ค่าช่วง ISO AUTO สามารถตั้งค่าได้ตามความชอบส่วนตัวของคุณ โดยส่วนตัวแล้วฉันแนะนำให้ตั้งค่าระหว่าง 100 ถึง 3,200

ก่อนที่พระอาทิตย์จะตกดินนั้น คุณสามารถลดลดรูรับแสงลงเหลือ F16 เพื่อให้ได้ความชัดลึกมากขึ้นได้ เมื่อพระอาทิตย์ตกดิน แสงก็จะค่อยๆ อ่อนลง และเวลาเปิดรับแสงจะค่อยๆ เพิ่มขึ้นเป็นสองวินาที เมื่อมันเกิดขึ้นแล้ว ให้เพิ่ม ISO เป็น 100 – 3200 เพื่อรักษาคุณภาพของภาพถ่ายของคุณ

เมื่อ ISO เกิน 200/400 ให้ปรับรูรับแสงจาก F16 เป็น F11 แล้ว ISO จะลดลงครึ่งหนึ่ง จากนั้นให้ทำต่อไปจนกว่ารูรับแสงของคุณจะลดลงเหลือ F2.8

ปรากฎการณ์ Blue Tears สุดสวยงาม

Alpha 1| FE 14mm F1.8 GM | F1.8 | 15s | ISO 2000

ปรากฎการณ์ Blue Tears เป็นผลที่เกิดจากการเรืองแสงของสิ่งมีชีวิต และควรถ่ายภาพในสถานที่ที่มีแสงน้อยมาก โดยเฉพาะในช่วงน้ำขึ้น เมื่อคลื่นกระทบแนวปะการังและแสงจากสาหร่ายเด่นชัดขึ้น ปรากฎการณ์นี้ปกติแล้วจะเกิดขึ้นเป็นเวลาประมาณสามชั่วโมง

ในการสร้างวิดีโอไทม์แลปส์ด้วยอัตราเฟรมสูงนั้น ให้ลดระยะเวลาเปิดรับแสงลงเพื่อให้คุณสามารถถ่ายภาพได้อย่างเพียงพอในช่วงระยะเวลาที่จำกัดนี้ โปรดทราบว่าการลดระยะเวลาเปิดรับแสงสามารถทำให้ภาพของคุณมีแสงน้อยเกินไปได้ดังนั้นการเลือกเลนส์รูรับแสงกว้างคุณภาพสูง (อย่างเลนส์ไพร์ม FE 14mm. F1.8 GM) จึงเป็นสิ่งสำคัญ

ภาพถ่ายเหล่านี้เป็นฉาก Blue Tears ที่เกาะดงจุในหมาจู่ เหตุการณ์ตามฤดูกาลนี้มักเกิดขึ้นตั้งแต่เดือนเมษายนถึงมิถุนายนของทุกปี ฉันจึงเลือกถ่ายภาพเมื่อไม่มีแสงจันทร์และสามารถมองเห็นทางช้างเผือกได้ นอกจากการพิจารณาเหล่านี้แล้ว คุณยังต้องพิจารณาถึงทิศทางลม (ลมใต้จะดีที่สุด) อุณหภูมิ (แนะนำ 18 ถึง 22°C) และสภาพอากาศ (อากาศปลอดโปร่งและไม่มีหมอก) ด้วย

เนื่องจากสภาพแวดล้อมในการถ่ายภาพเกือบจะมืดสนิท ฉันจึงขอแนะนำให้ใช้โหมดแมนนวล (M) โดยตั้งค่าที่ F1.8, 15s และ ISO 2000 หากมีมลภาวะทางแสงในปริมาณที่พอเหมาะ คุณก็สามารถลด ISO ลงได้เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ภาพของคุณเปิดรับแสงมากเกินไป

คู่มือเร่งรัด: กรอบเวลาและระยะเวลาในการถ่ายฉากยอดนิยม

Alpha 1| FE 14mm F1.8 GM | F1.8 | 15s | ISO 2000

เพื่อเป็นการช่วยคุณเริ่มถ่ายภาพไทม์แลปส์ ฉันจึงทำรายการกรอบเวลาและระยะเวลาที่ฉันแนะนำเพื่อถ่ายฉากยอดนิยมเอาไว้

กรอบเวลาสำหรับฉากยอดนิยม:

ฉากรุ่งอรุณและพลบค่ำ: 1 ชั่วโมง
ฉากเส้นทางดวงดาวและกาแล็กซี: 2 ถึง 4 ชั่วโมง
ฉากดวงอาทิตย์ตก: 20 นาที
ฉากสายรุ้ง: 15 นาที

คุณสามารถใช้สูตรนี้ได้เมื่อคุณตั้งโปรแกรมช่วงเวลา:

เวลาเปิดรับแสงนานที่สุดของฉาก + 1 วินาที = ช่วงเวลาวินาที

ตัวอย่างเช่น เวลาเปิดรับแสงนานที่สุดสำหรับฉากรุ่งอรุณและพลบค่ำคือ 2 วินาที + 1 วินาที = 3 วินาที และเวลาเปิดรับแสงนานที่สุดในฉากท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวและทางช้างเผือกคือ 15 วินาที + 1 วินาที = 16 วินาที

นอกจากนี้ ฉากที่มีระยะเวลาสั้นกว่า (เช่น ฉากสายรุ้ง) สามารถถ่ายโดยใช้เวลาเปิดรับแสงไม่เกิน 0.5 วินาที โดยเว้นช่วง 1 วินาที ด้วยวิธีนี้ คุณจะสามารถถ่ายภาพได้ 900 ภาพภายใน 15 นาทีที่สามารถมองเห็นรุ้งกินน้ำได้

สำหรับฉากต่างๆ เช่น "ฉากดวงอาทิตย์ตก" ทางยาวโฟกัสที่ยาวและความเร็วชัตเตอร์ต่ำอาจทำให้โฟกัสเปลี่ยนไปซึ่งส่งผลให้ภาพออกมาพร่ามัวได้ ฉันจึงขอแนะนำให้ตั้งค่าความเร็วชัตเตอร์ไม่ต่ำกว่า 1/30 วินาที หรือ 1/15 วินาที โดยเว้นช่วงเวลาไว้ 1 หรือ 2 วินาที (ขึ้นอยู่กับความยาวโฟกัสและความมั่นคงของขาตั้งกล้อง) หากการถ่ายภาพของคุณต้องใช้ทางยาวโฟกัสที่ยาวซึ่งต้องคงที่ตั้งแต่กลางวันจนถึงกลางคืน การเปิดรับแสงนานยังคงมีความสำคัญเป็นอันดับแรก แต่ก่อนอื่นควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าขาตั้งกล้องของคุณมีความมั่นคงมากและเตรียมพร้อมเพื่อป้องกันไม่ให้ภาพสั่นไหวในแนวนอน

ความคิดเห็นของฉันเกี่ยวกับเลนส์ไพร์ม FE 14mm. F1.8 GM

ฉันขอพูดตรงๆ เลยว่าฉันรอเลนส์อย่างเลนส์ไพร์ม FE 14mm. F1.8 GM มากว่าสามปีแล้ว! ฉันมักจะถ่ายในที่โล่งแจ้งซึ่งทำให้เลนส์ที่มีน้ำหนักเบามีความสำคัญสำหรับฉัน นอกจากนี้ ฉันยังชอบถ่ายในความละเอียดระดับ 8K ซึ่งคุณภาพภาพระดับ 8K ของเลนส์ FE 14mm. F1.8 GM ก็ช่วยทำให้ฉันมั่นใจได้ว่าภาพถ่ายจะออกมาอย่างยอดเยี่ยมอยู่เสมอ

ยิ่งไปกว่านั้น เส้นผ่านศูนย์กลางเลนส์ที่เล็กยังเหมาะสำหรับใช้ภ่ายภาพในพื้นที่ภูเขาอีกด้วย ภายใต้อุณหภูมิต่ำและความชื้นสูงของสภาพแวดล้อมเหล่านี้ พื้นที่ผิวขนาดเล็กจะลดการสัมผัสกับอากาศเย็น ซึ่งเป็นสาเหตุทั่วไปของการเกิดฝ้าที่กระจก และเป็นสิ่งที่ทำให้ฉันพอใจเนื่องจากไม่ต้องกังวลอีกต่อไป

นอกจากนี้ เลนส์ FE 14mm. F1.8 GM ยังสามารถใส่ระบบฟิลเตอร์ a 100mm. ได้ด้วย ซึ่งช่วยให้ฉันสามารถปรับสมดุลแสงคอนทราสต์ของภาพได้ล่วงหน้าและขยายระยะเวลาเปิดรับแสงเพื่อถ่ายภาพคุณภาพที่สูงยิ่งขึ้นได้

เมื่อจับคู่กับ Alpha 1 ซึ่งมีละติจูดที่แข็งแกร่งมากและสามารถบันทึกไฟล์ RAW ขนาด 16 บิตได้ นี่จึงเป็นการผสมผสานที่ลงตัวสำหรับการถ่ายภาพแบบไทม์แลปส์ในทุกช่วงเวลาของวัน ทั้งตอนเช้าและตอนเย็น ซึ่งไฟล์ RAW 16 บิตสามารถกู้คืนรายละเอียดในพื้นที่มืดได้จากการตัดต่อภาพในภายหลังได้ด้วย ซึ่งช่วยเพิ่มคุณภาพสุดท้ายของภาพถ่ายไทม์แลปส์ได้อย่างมาก

ผลิตภัณฑ์แ

ฑ์แนะนำ

Alpha 1

Full Frame Camera with Superb Resolution & Speed

FE 14mm F1.8 GM

G Master Ultra wide Prime Lens for Full Frame

ECM-B1M

Shotgun Microphone

ECM-W2BT

Wireless Microphone

GP-VPT2BT

Shooting Grip with Wireless Remote Commander

Article Theme

ทิวทัศน์เมือง/ทิวทัศน์ยามค่ำคืน

การสร้างภาพยนตร์

ดวงดาว

ธรรมชาติ/ทิวทัศน์

FE PZ 16-35mm F4 G | Capture versatile shots | Review by Park Insu

Harriman — Wed, 17 May 2023 06:29:07 +0000

FE PZ 16-35mm F4 G | ถ่ายภาพได้หลากหลาย | โดย Park Insu

Harriman Wed, 05/17/2023 - 11:59

Article Categories

บทวิจารณ์

การออกแบบและถ่ายทำการเต้น

ผมสนุกกับการได้พบปะผู้คนและบอกเล่าเรื่องราวของพวกเขาผ่านวิดีโอ เวลาผมบันทึกวิดีโอ ผมชอบนึกถึงข้อความที่น่าสนใจสำหรับวิดีโอ แล้วถ่ายทอดในรูปแบบที่น่าสนใจและน่าจดจำ นี่เป็นเรื่องจริงโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับวิดีโอการเต้น เนื่องจากท่าเต้นที่เป็นเอกลักษณ์ทำให้วิดีโอแต่ละรายการมีเอกลักษณ์และมีเสน่ห์ในแบบของตัวเอง

ซีรีส์วิดีโอที่น่าจดจำเป็นพิเศษจากผลงานของผมคือ “Paris Groove” ซึ่งเป็นคอลเล็กชั่นวิดีโอแปดเรื่องที่เกี่ยวข้องกับศิลปิน 11 คน ก่อนหน้านี้ ผมได้ผลิตซีรีส์เรื่อง “Seoul Groove” และผมต้องการขยายแนวคิดนี้ไปยังประเทศอื่นๆ ด้วย

การเลือกกล้องและเลนส์ในอุดมคติ

เมื่อต้องถ่ายวิดีโอเชิงพาณิชย์ ผมมักจะเป็นช่างวิดีโอคนเดียว ดังนั้นการเลือกอุปกรณ์จึงมีความสำคัญมาก สำหรับการถ่ายแบบ “Paris Groove” เลนส์ซูม FE PZ 16-35mm F4 G เป็นตัวเลือกแรกของผม รองลงมาคือเลนส์เดี่ยว FE 85mm. F1.4 GM เลนส์ซูม FE PZ 16-35mm. F4 G ซึ่งมีคุณสมบัติการซูมที่โดดเด่นและการซูมด้านใน และด้วยความสามารถรอบด้าน ทำให้ผมได้ภาพที่โดยทั่วไปจะต้องใช้คนสามคนขึ้นไปในการถ่ายทำ

สำหรับกล้อง ผมเลือก FX9 และ FX3 แผนของผมคือการใช้ FX9 เพื่อจับภาพทิวทัศน์และตัวแบบทั้งหมด ในขณะเดียวกัน FX3 ถูกติดตั้งไว้บนกิมบอล และใช้ในการถ่ายฉากเคลื่อนไหว ซึ่งมีประโยชน์สำหรับการถ่ายภาพมุมต่ำ

ข้อควรพิจารณาในการถ่ายภาพเต้นรำ

ระวังเสียงตัวเองไม่ให้ก่อเสียงแทรก

สำหรับวิดีโอการเต้น เรามักจะต้องใช้ลำโพง ซึ่งมันอาจทำให้เกิดเสียงรบกวนได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบางสภาพแวดล้อม ตัวอย่างเช่น ฉากหนึ่งอยู่ในแหล่งช้อปปิ้ง เนื่องจากมีร้านค้ามากมายในอาร์เคดและเป็นพื้นที่ในร่มที่มีเสียงสะท้อนมากมาย ผมจึงขอความเข้าใจจากทุกคนล่วงหน้า

วางแผน วางแผน วางแผน

ในชุด “Paris Groove” สิ่งสำคัญคือเราต้องจับภาพการเคลื่อนไหวของนักเต้นได้อย่างสมบูรณ์แบบ ซึ่งหมายถึงการตรวจสอบพื้นที่และวางแผนอย่างเหมาะสม ผมวางแผนว่าจะวางองค์ประกอบศิลป์ไว้ที่ใด ตรวจสอบว่ามีความลึกเพียงพอสำหรับการถ่ายภาพหรือไม่ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้รวมโครงสร้างไว้ในภาพหรือจัดกรอบไว้ และอื่นๆ

ฉันยังต้องวางแผนการเคลื่อนไหวของกล้องและปรับเปลี่ยนสิ่งที่ฉันทำตามพื้นที่ กล้อง และเลนส์ของฉันด้วย การวางแผนทั้งหมดนี้จำเป็นเพื่อให้แน่ใจว่าองค์ประกอบทั้งหมดมารวมกันอย่างราบรื่นในวิดีโอสุดท้าย

Paris Groove: แยกโครงสร้างฉากที่เลือก

ระบำท่ามกลางเสาแนวตั้ง

องค์ประกอบที่น่าสนใจในวิดีโอนี้คือชุดของโครงสร้างแนวตั้งในพื้นหลัง ในการถ่ายภาพโครงสร้างเหล่านี้และท้องฟ้าอย่างเหมาะสม ผมใช้ภาพมุมต่ำ เพื่อให้แน่ใจว่าภาพที่ถ่ายจะไม่ได้ดูต่ำเกินควร ผมจึงตัดภาพรอบๆ ความสูงของเข่าของนางแบบไปที่บริเวณหน้าท้อง และเติมโครงสร้างและท้องฟ้าที่เหลือให้เต็มหน้าจอ ผลที่ได้คือความกลมกลืนที่น่าสนใจระหว่างองค์ประกอบศิลป์หลักทั้งสาม ทั้งนักเต้น อาคาร และท้องฟ้า

ภาพเคลื่อนไหวแบบ 360 องศา

ในการจับภาพความลึกของสภาพแวดล้อมเหล่านี้ได้อย่างเต็มที่ ผมถ่ายทำฉากเหล่านี้ด้วยไม้กันสั่นที่ทำให้เคลื่อนไหวได้ 360 องศา มุมกว้าง 16mm. ของ FE PZ 16-35mm F4 Gถูกใช้เพื่อลดขนาดพื้นที่ให้มากที่สุด และระยะห่างจากกล้องถึงแบ็คกราวด์ก็ถ่ายทอดเสรีภาพในการเคลื่อนไหวที่นักเต้นแสดงด้วยร่างกายได้อย่างสมบูรณ์แบบ

ทีมเต้นแบบแท็กทีม

ฉากนี้จะเกี่ยวข้องกับนักเต้นสองคน ซึ่งทำให้เกิดความท้าทายที่น่าสนใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การต้องโฟกัสที่วัตถุทั้งสองขณะที่มีปฏิสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน ในขณะที่ยังต้องเปลี่ยนโฟกัสจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่งบ่อยครั้งอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง นี่คือจุดที่โฟกัสอัตโนมัติที่ยอดเยี่ยมและมอเตอร์เชิงเส้น XD บน FE PZ 16-35mm F4 G ที่โดดเด่น

มันง่ายที่จะเปลี่ยนโฟกัสระหว่างนักเต้นได้อย่างรวดเร็วและราบรื่น ทำให้ผู้ชมรู้สึกเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของการเต้น เมื่อได้ชมการแสดงบนจอภาพ ผมรู้สึกทึ่งกับการแสดงเป็นอย่างยิ่ง

คำแนะนำสำหรับมือใหม่

หากคุณใฝ่ฝันที่จะถ่ายวิดีโอการเต้น ไม่ว่าจะเป็นงานอดิเรกหรืออาชีพ ผมขอแนะนำให้รวบรวมข้อมูลอ้างอิงมากมาย เมื่อใดก็ตามที่ผมดูสารคดี โฆษณา หรือวิดีโอเกี่ยวกับการเต้นรำ ผมจะเก็บถาวรวิดีโอที่รู้สึกว่าถูกกำกับมาอย่างดี จากนั้น ผมจะวิเคราะห์ทุกฉาก และนึกถึงการเคลื่อนไหวของกล้องและรายละเอียดอื่นๆ

ผมเชื่อว่าการถ่ายวิดีโอด้วยสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเองเป็นสิ่งสำคัญเสมอ แต่บางครั้ง การถ่ายทำวิดีโอในแบบที่คนอื่นทำ สามารถช่วยให้คุณคิดนอกกรอบได้

เมื่อพูดถึงอนาคต ผมกำลังวางแผนที่จะผลิต “Seoul Groove 2” ผมตื่นเต้นกับการสร้างวิดีโอเพิ่มเติมด้วยกล้องซีรีส์ Alpha 1 และ 8K จาก Sony และอยากจะจัดนิทรรศการของตัวเองสักวันหนึ่ง